การเตรียมพร้อมก่อนเรียน
หัวข้อการเขียนแบบเบื้องต้น
เรื่องมาตรฐานการเขียนแบบ
และภาพสเก็ต
https://sites.google.com/site/chaowpreeya/home/m 3.การสร้างรูปเรขาคณิต 3.1 การสร้างเส้นในรูปต่าง ๆ3.1 การสร้างรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า3.2 การสร้างรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส3.4 การสร้างรูปห้าเหลี่ยมด้านเท่า3.5 การสร้างรูปหกเหลี่ยมด้านเท่า3.6 การสร้างรูปแปดเหลี่ยมด้านเท่า3.7 การสร้างรูปวงรี หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การสร้างรูปทรงเรขาคณิต รูปทรงของชิ้นงานที่นำมาเขียนเป็นแบบงานในงานเขียนแบบเทคนิคล้วนแล้วแต่มีการนำเอารูปทรงเรขาคณิตมาใช้และนำมาประยุกต์เพื่อเขียนเป็นรูปทรงของแบบงาน ดังนั้น ผู้ที่จะทำการเขียนแบบงานจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้และฝึกหัดการเขียนรูปทรงทางเรขาคณิตพร้อมทั้งการนำเอารูปทรงต่าง ๆ ทางเรขาคณิตมาประยุกต์ใช้ในการเขียนแบบงานรูปทรงเรขาคณิตที่นำมาประยุกต์ใช้ในงานเขียนแบบมีอยู่มากมายหลายแบบด้วยกัน ซึ่งในแต่ละชนิดจะมีวิธีการเขียนและการสร้างที่แตกต่างกันออกไป เราสามารถที่จะแบ่งชนิดและวิธีในการสร้างรูปทรงทางเรขาคณิต เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในงานเขียนแบบดังต่อไปนี้ ภาพที่ 3.1 แสดงการนำเอารูปทรงเรขาคณิตมาใช้ในงานเขียนแบบ
|
|
(R1, R2) บวกกับรัศมีของส่วนโค้งที่จะเขียนสัมผัส (R3) เป็นรัศมีในการเขียนส่วนโค้งทั้งสอง· เขียนเส้นตรงโดยเริ่มต้นที่ส่วนที่ตัดกัน เขียนให้ตั้งฉากกับส่วนโค้งทั้งสอง· ใช้จุดตัดของส่วนโค้งทั้งเป็นจุดศูนย์กลางในการเขียนส่วนโค้งสัมผัสระหว่างส่วนโค้งที่กำหนดทั้งสอง 3.1.5 การสร้างส่วนโค้งสัมผัสล้อมรอบส่วนโค้ง 2 เส้น ภาพที่ 3.8 การสร้างส่วนโค้งสัมผัสล้อมรอบส่วนโค้ง 2 เส้น
|
|
ภาพที่ 4.18 แสดงการเขียนสัญลักษณ์บอกรูปร่างชิ้นงานหน้าตัดวงกลม
|
ภาพที่ 4.19 แสดงการกำหนดขนาดชิ้นงานที่มีรูปร่างสี่เหลี่ยม
|
ภาพที่ 4.20 แสดงการกำหนดขนาดชิ้นงานที่มีรูปร่างเป็นทรงกลม
|
ภาพที่ 4.32 เปรียบเทียบขนาดของวัตถุที่ใช้ในการเขียนแบบและขนาดจริงของวัตถุ
|
ความหมายของการสเกตภาพ
การสเกตภาพ หมายถึง การเขียนภาพโดยไม่ใช้เครื่องมือเขียนแบบช่วย จะเขียนภาพโดยใช้มือเปล่า (FREE
HAND) โดยการลากเส้นขึ้นเป็นชิ้นงานอย่างหยาบ ๆ จากความคิดหรือจินตนาการของวิศวกรผู้ออกแบบ
เพื่อนำไปใช้เขียนแบบที่มีรายละเอียดต่าง ๆ สมบูรณ์ตามมาตรฐานต่อไป
ดินสอที่ใช้ในการสเกตภาพนั้นควรใช้เกรด HB หรือ F โดยจับดินสอให้ห่างจากปลายดินสอประมาณ 30-40 มิลลิเมตรขณะที่ลากเส้นสเกตภาพควรหมุนดินสอตามไปด้วย เพื่อทำให้ปลายดินสอแหลมอยู่เสมอ ทำให้เส้นที่ลาดคม ชัดเจน นำหนักของเส้นที่ใช้ในการลากเส้น ในการสเกตภาพมี 2 ระดับคือ
เส้นหนัก ใช้เขียนเส้นรอบรูป เส้นประ เส้นแนวตัด
เส้นเบา ใช้เขียนเส้นศูนย์กลาง เส้นบอกขนาด เส้นช่วยบอกขนาด
ลักษณะการจับดินสอในการสเกตภาพ
การลากเส้นในการสเกตภาพ
สำหรับผู้ที่มีความชำนาญอาจจะใช้กระดาษธรรมดาทำการสเกตรูปงาน ส่วนที่ยังไม่มีความชำนาญควรทำการสเกตภาพลงบนกระดาษ สำหรับใช้ในงานสเกตภาพ โดยเฉพาะจะทำให้การลากเส้นต่าง
ๆ ของงาน และสัดส่วนของภาพถูกต้อง โดยกระดาษสำหรับใช้งานสเกตภาพจะพิมพ์เป็นตาราง ซึ่งจะทำให้การสเกตภาพสะดวกขึ้น
การลากเส้นตรง
การลากเส้นตรงสำหรับการสเกตภาพ เป็นการลากเส้นโดยใช้ความชำนาญของผู้ปฏิบัติงาน จึงควรปฏิบัติโดยสม่ำเสมอ เส้นตรงที่ใช้ในงานสเกตภาพมีหลายลักษณะดังนี้
เส้นตรงในแนวนอน การลากเส้นตรงในแนวนอน ควรต้องกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสุดท้าย แล้วจึงลากเส้นจากทางซ้ายมือไปทางขวามือ ถ้าต้องการลากเส้นที่มีความยาวมากควรลากเส้นสั้น
ๆ ต่อ ๆ กันจะง่ายกว่าการลากเส้นยาว
เส้นตรงแนวดิ่ง การลากเส้นตรงแนวดิ่ง ควรลากเส้นจากบนลงมาล่าง โดยใช้นิ้วแตะขอบกระดานสเกตจะช่วยทำให้ลากเส้นแนวดิ่งมีความตรงมากขึ้น
เส้นตรงแนวเฉียง การลากเส้นตรงแนวเฉียงมีวิธีการลากเส้นเช่นเดียวกับการลากเส้นตรงแนวนอน ควรกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสุดท้ายแล้วจึงลากเส้นตรงแนวเฉียง เริ่มจากบนลงล่างหรือจากล่างขึ้นบนได้ทั้ง 2 วิธี
การลากเส้นโค้งหรือวงกลม
การลากเส้นโค้งหรือกลม นับว่าเป็นการเขียนที่ยากมาก ดังนั้นจึงต้องมีการฝึกหัดและเขียนอยู่อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เกิดความเชี่ยวชาญ และปฏิบัติได้โดยไม่ยากนัก การลากเส้นโค้งหรือวงกลมสามารถทำได้หลายวิธี
การสเกตวงกลมวิธีที่ 1 โดยเขียนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หาจุดกึ่งกลางของด้านที่วงกลมสัมผัส ลากเส้นทแยงมุม กำหนดจุดประมาณที่เส้นรอบวงจะผ่านบนเส้นทแยงมุม จากนั้นเขียนส่วนโค้งผ่านจุดที่กำหนด จะเกิดเป็นรูปวงกลม
การสเกตภาพวงกลมจากรูปสี่เหลี่ยม
การสเกตวงกลมวิธีที่ 2 โดยการลากเส้นผ่าศูนย์กลาง แล้วกำหนดจุดประมาณที่เส้นรอบวงของวงกลมจะผ่าน เขียนส่วนโค้งผ่านจุดที่กำหนดจะเกิดเป็นรูปวงกลม
|
การสเกตภาพวงกลมจากเส้นผ่าศูนย์กลาง
การสเกตวงกลมวิธีที่ 3 โดยการใช้กระดาษวัดระยะรัศมีที่ต้องการเขียนบนกระดาษแล้วนำไปทาบบนกระดาษสเกต โดยให้ด้านหนึ่งอยู่ที่จุดศูนย์กลาง อีกด้านอยู่ที่เส้นรอบวงหมุนกระดาษไปแล้วทำจุดเส้นประไปจนครบวงกลม แล้วจึงลงเส้นหนักตามแนวเส้นประ จะเกิดเป็นรูปวงกลม
การสเกตภาพวงกลมโดยใช้กระดาษ
การสเกตวงกลมวิธีที่ 4 โดยหาหมุนกระดาษสเกต ทำได้โดยใช้ปลายนิ้วก้อยจรดที่จุดศูนย์กลาง แล้วใช้มืออีกข้างหมุนกระดาษสเกตไปเรื่อย ๆ จนได้รูปวงกลมตามต้องการ
การสเกตภาพวงกลมโดยการหมุนกระดาษ
การสเกตวงกลมโดยใช้ดินสอ การสเกตวงกลมวิธีนี้จะใช้ดินสอ 2 แท่ง โดยให้ดินสอจรดที่จุดศูนย์กลาง ดินสออีกแท่งกำหนดที่ขีดเส้นรอบวงของวงกลมแล้วหมุนกระดาษไปเรื่อย ๆ
จะเกิดเป็นรูปวงกลม
การสเกตภาพวงกลมโดยใช้ดินสอสองแท่ง
สเกตวงกลมขนาดใหญ่ โดยใช้นิ้วมือเป็นจุดศูนย์กลางของวงกลม เช่นเดียวกับวงเวียนเขียนแบบ
การสเกตวงรี
การสร้างวงรีโดยเขียนรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ให้มีขนาดความกว้าง ความยาว เท่ากับขนาดของวงรีที่ต้องการ แบ่งครึ่งที่ด้านทั้งสี่ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่จุดกึ่งกลางของเส้น
แล้วลากเส้นโค้งให้ต่อกันเป็นวงรี
การสเกตวงรี
การสเกตภาพสามมิติ
การสเกตภาพสามมิติ มีจุดมุ่งหมายเพื่อถ่ายทอดข้อมูลจากความคิดหรือจินตนาการของวิศวกรผู้ออกแบบให้เป็นภาพสามมิติ เพื่อให้ช่างเขียนแบบสามารถเห็นรูปร่างของงานได้ทั้ง ความกว้าง ความยาว
และความหนา การสเกตภาพสามมิตินี้สามารถทำได้ทั้งแบบไอโซเมตริกและแบบออบลิค ขึ้นอยู่กับลักษณะการวางชิ้นงาน
การสเกตภาพออบลิคจากภาพสามมิติ
1. สเกตภาพด้านหน้าตามที่กำหนด
2. สเกตภาพตามความลึกของชิ้นงานทำมุม 45 องศา กับแนวนอน
3. ลบเส้นร่างที่ไม่ใช้ออกจากรูปงาน
4. ลงเส้นเต็มหนักที่เส้นขอบรูป
แสดงลำดับภาพการสเกตภาพออบลิค
การสเกตออบลิคจากภาพฉาย
1. เขียนรูปกล่องสี่เหลี่ยมตามหลักการเขียนภาพ OBLIQUE โดยมีขนาดกำหนด
2. สเกตรายละเอียดต่าง ๆ ตามภาพฉาย
3. ลบเส้นที่ร่างออก แล้วลงเส้นเต็มหนักของขอบชิ้นงาน
แสดงลำดับเส้นการสเกตภาพ OBIQUE จากภาพฉาย
การสเกตภาพไอโซเมตริกจากภาพสามมิติ
1. เขียนรูปกล่องสี่เหลี่ยมโดยวางภาพลักษณะไอโซเมตริก
2. แบ่งระยะเขียนรายละเอียดของภาพให้ครบตามแบบงานที่กำหนด
3. ลบเส้นที่ไม่ใช้ออกจากแบบรูปงาน
4. ลงเส้นเต็มหนักที่เส้นขอบงาน
แสดงลำดับขั้นตอนสเกตภาพจากภาพสามมิติ
การสเกตภาพไอโซเมตริกจากภาพฉาย
1. เขียนรูปกล่องสี่เหลี่ยมมีขนาดกรอบนอกของรูปตามภาพฉาย โดยวางแกนภาพตามหลัก ISOMETRIC
2. สเกตผิวหน้างานด้านต่าง ๆ ตามรายละเอียดในภาพฉาย
3. ลบเส้นที่ไม่ใช้ออกจากรูปงาน
4. ลงเส้นเต็มหนักที่เส้นขอบงาน
แสดงลำดับขั้นการสเกตภาพจากภาพฉาย